ปี 2025 นับเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของตลาดคลาวด์ในประเทศไทย เมื่อ AWS เปิดตัว Thailand Region อย่างเป็นทางการในเดือนมกราคม ด้วยการลงทุนกว่า 190,000 ล้านบาท ขณะเดียวกัน ทุนจีนก็ไม่ยอมแพ้ เมื่อบริษัท ฮ่าวหยาง ดาต้า เซ็นเตอร์ประกาศการลงทุนสร้างดาต้าเซ็นเตอร์ระดับไฮเปอร์สเกลมูลค่า 72,670 ล้านบาท ซึ่งจะเป็นดาต้าเซ็นเตอร์ที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคอาเซียน
การเข้ามาของผู้เล่นใหญ่ทั้งสองฝ่ายนี้สะท้อนให้เห็นถึงความสำคัญเชิงยุทธศาสตร์ของประเทศไทยในฐานะศูนย์กลางดิจิทัลของภูมิภาค โดยเฉพาะในยุคที่ความต้องการด้าน AI และ Edge Computing เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว การแข่งขันระหว่างทุนสหรัฐฯ และจีนในตลาดไทยไม่เพียงแต่จะสร้างทางเลือกที่หลากหลายให้กับองค์กรธุรกิจไทย แต่ยังเป็นแรงผลักดันสำคัญที่จะขับเคลื่อนการพัฒนาดิจิทัลของประเทศไทยให้ก้าวหน้าไปอีกขั้น
ตลาดดาต้าเซ็นเตอร์ไทยในปี 2025: การเติบโตที่ไม่เคยมีมาก่อน
ตลาดดาต้าเซ็นเตอร์ในประเทศไทยกำลังเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในปี 2025 ข้อมูลจากสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) แสดงให้เห็นว่ามีการลงทุนด้านดาต้าเซ็นเตอร์และบริการคลาวด์ที่ได้รับการอนุมัติรวม 37 โครงการ มูลค่าการลงทุนรวมกว่า 98,539 ล้านบาท โดยกระจายตัวในพื้นที่กรุงเทพฯ สมุทรปราการ ชลบุรี และระยอง
การเติบโตอย่างก้าวกระโดดนี้เกิดขึ้นท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของอุตสาหกรรมดาต้าเซ็นเตอร์ทั่วโลก โดยมีแรงผลักดันจากความต้องการด้านการประมวลผล AI ที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ความสำคัญของ Edge Computing ที่ต้องการการประมวลผลใกล้แหล่งข้อมูลเพื่อลดความหน่วงเวลาและเพิ่มประสิทธิภาพ รวมถึงความต้องการด้านความยั่งยืนที่เป็นเรื่องสำคัญมากขึ้น
นโยบาย Cloud First ของรัฐบาลไทยเป็นอีกปัจจัยสำคัญที่ผลักดันการเติบโตของตลาดนี้ รัฐบาลได้กำหนดให้หน่วยงานรัฐพิจารณาคลาวด์เป็นตัวเลือกแรกในการพัฒนาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ พร้อมทั้งสนับสนุนการย้ายระบบสู่คลาวด์และจัดสรรงบประมาณสำหรับการทำ Digital Transformation ทำเลที่ตั้งยุทธศาสตร์ในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ยังช่วยเสริมความได้เปรียบของไทยในการดึงดูดการลงทุนด้านดาต้าเซ็นเตอร์ เนื่องจากมีโครงสร้างพื้นฐานที่พร้อมและนโยบายภาครัฐที่เอื้อต่อการลงทุน
การลงทุนดาต้าเซ็นเตอร์จีนในไทย: ฮ่าวหยางนำทีมด้วยเงินลงทุน 7.2 หมื่นล้าน
การลงทุนของบริษัท ฮ่าวหยาง ดาต้า เซ็นเตอร์ 1 (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทในกลุ่มของ Beijing Haoyang Cloud & Data Technology Co., Ltd. ถือเป็นการลงทุนที่สร้างประวัติศาสตร์ใหม่ให้กับตลาดดาต้าเซ็นเตอร์ในภูมิภาคอาเซียน ด้วยมูลค่าการลงทุนกว่า 2.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 72,670 ล้านบาท เพื่อสร้างดาต้าเซ็นเตอร์ระดับไฮเปอร์สเกลขนาดกำลังไฟฟ้า 300 เมกะวัตต์
โครงการนี้จะตั้งอยู่ภายในนิคมอุตสาหกรรมดับบลิวเอชเอ อีสเทิร์น ซีบอร์ด 4 (WHA ESIE 4) ในจังหวัดระยอง และได้รับการสนับสนุนจากสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) คาดว่าจะเปิดดำเนินการได้ภายในปี 2569 พร้อมทั้งมีแผนการใช้พลังงานหมุนเวียนเป็นหลัก ซึ่งสะท้อนถึงความมุ่งมั่นด้านความยั่งยืน
สำหรับบริษัท ฮ่าวหยาง ดาต้า เซ็นเตอร์แล้ว การเลือกประเทศไทยเป็นตลาดต่างประเทศแห่งแรกไม่ใช่เรื่องบังเอิญ ปัจจุบันบริษัทดำเนินศูนย์ข้อมูลหลัก 5 แห่งในเมืองเศรษฐกิจสำคัญของจีน ได้แก่ ปักกิ่ง เซี่ยงไฮ้ กว่างโจว มาเก๊า และเซินเจิ้น การตัดสินใจลงทุนในไทยสะท้อนถึงความเชื่อมั่นในศักยภาพของไทยในฐานะศูนย์กลางดิจิทัลระดับภูมิภาค ความพร้อมด้านโครงสร้างพื้นฐาน และทำเลที่ตั้งยุทธศาสตร์ในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก
การลงทุนครั้งนี้เกิดขึ้นในช่วงเวลาที่อุตสาหกรรมดาต้าเซ็นเตอร์ทั่วโลกกำลังขยายตัวสู่ภูมิภาคใหม่ๆ เช่น เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ตะวันออกกลาง ละตินอเมริกา และแอฟริกา โดยมุ่งพัฒนาเทคโนโลยีระบบระบายความร้อนแบบใหม่ เช่น การระบายความร้อนโดยตรงที่ชิปและการระบายความร้อนด้วยของเหลว เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพด้านพลังงานและลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม
การแข่งขันคลาวด์สหรัฐฯ-จีน: โอกาสทองสำหรับธุรกิจไทย
การเข้ามาของผู้เล่นใหญ่จากทั้งสหรัฐฯ และจีนในตลาดไทยสร้างสภาพแวดล้อมการแข่งขันที่เข้มข้นขึ้น ซึ่งจะเป็นประโยชน์อย่างมากต่อองค์กรธุรกิจไทย AWS ได้เปิดให้บริการ Thailand Region อย่างเป็นทางการในเดือนมกราคม 2025 ด้วยการลงทุนกว่า 190,000 ล้านบาท ประกอบด้วยศูนย์ข้อมูล 3 แห่งในประเทศไทย ขณะที่ Microsoft กำลังอยู่ระหว่างการพัฒนาศูนย์ข้อมูลในประเทศไทย และ Google ได้ประกาศแผนการลงทุน 36,000 ล้านบาทในประเทศไทย
การแข่งขันที่เข้มข้นนี้ส่งผลให้องค์กรไทยได้รับประโยชน์หลายประการ ทั้งการลดลงของราคาบริการ การปรับปรุงคุณภาพการให้บริการ และการเพิ่มขึ้นของตัวเลือกที่หลากหลาย AWS Thailand Region ช่วยให้ค่าบริการถูกกว่า Singapore Region ประมาณ 10% และรองรับการปฏิบัติตาม PDPA อย่างเต็มรูปแบบ ในขณะที่ผู้ให้บริการจีนมักเสนอราคาที่แข่งขันได้และมีความเชี่ยวชาญในการให้บริการสำหรับตลาดเอเชีย
ประเด็นสำคัญที่องค์กรไทยต้องพิจารณาคือเรื่องความปลอดภัยของข้อมูลและการปฏิบัติตาม PDPA การมีศูนย์ข้อมูลในประเทศช่วยให้องค์กรสามารถจัดเก็บข้อมูลภายในประเทศไทยได้ ซึ่งเป็นข้อกำหนดสำคัญของกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล นอกจากนี้ ยังช่วยลดความหน่วงเวลาในการเข้าถึงข้อมูลและเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของระบบ
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่สำคัญคือการลงทุนจากต่างประเทศควรสร้างประโยชน์ร่วมกันกับประเทศไทยอย่างแท้จริง ไม่ใช่เป็นเพียงการแสวงหาผลประโยชน์เพียงฝ่ายเดียว เราหวังว่าบริษัทจีนที่เข้ามาลงทุนจะมีส่วนร่วมในการพัฒนาระบบนิเวศทางธุรกิจของไทย สร้างงานที่มีคุณภาพสำหรับคนไทย และมีความรับผิดชอบต่อชุมชนท้องถิ่น แทนที่จะดำเนินธุรกิจในลักษณะ “ศูนย์เหรียญ” ที่ผลประโยชน์ส่วนใหญ่ถูกส่งกลับประเทศต้นทาง
สรุป
การแข่งขันระหว่างผู้ให้บริการคลาวด์สหรัฐฯ และจีนในตลาดไทยเป็นสัญญาณที่ดีสำหรับอนาคตของการพัฒนาดิจิทัลในประเทศไทย การลงทุนของ AWS ใน Thailand Region และการลงทุนขนาดใหญ่ของ Haoyang Data Center แสดงให้เห็นถึงความเชื่อมั่นในศักยภาพของไทยในฐานะศูนย์กลางดิจิทัลของภูมิภาคอาเซียน
การแข่งขันที่เข้มข้นนี้จะนำมาซึ่งประโยชน์หลายประการสำหรับองค์กรธุรกิจไทย ทั้งการลดลงของต้นทุนการใช้บริการคลาวด์ การเพิ่มขึ้นของตัวเลือกที่หลากหลาย และการปรับปรุงคุณภาพการให้บริการ นอกจากนี้ การมีศูนย์ข้อมูลในประเทศยังช่วยให้องค์กรสามารถปฏิบัติตาม PDPA ได้อย่างมีประสิทธิภาพและลดความหน่วงเวลาในการเข้าถึงข้อมูล
สำหรับผู้บริหารองค์กรไทย การเลือกผู้ให้บริการคลาวด์ที่เหมาะสมจึงเป็นการตัดสินใจเชิงกลยุทธ์ที่สำคัญ ควรพิจารณาทั้งด้านต้นทุน ความปลอดภัยของข้อมูล การปฏิบัติตามกฎหมาย และความพร้อมของการสนับสนุนทางเทคนิค การแข่งขันที่เพิ่มขึ้นนี้เป็นโอกาสทองสำหรับองค์กรไทยในการเร่งการเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัลและสร้างความได้เปรียบทางการแข่งขันในตลาดโลก
ประเทศไทยกำลังก้าวเข้าสู่ยุคใหม่ของการเป็นศูนย์กลางดิจิทัลที่แท้จริง ด้วยการสนับสนุนจากการลงทุนขนาดใหญ่ทั้งจากสหรัฐฯ และจีน การแข่งขันที่สุขภาพนี้จะเป็นแรงผลักดันสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัลของไทยให้เติบโตอย่างยั่งยืนและแข็งแกร่งในระยะยาว
อ้างอิง
- WHA ปิดดีลขายที่ดินให้ ‘ฮ่าวหยาง’ สร้างดาต้าเซ็นเตอร์ มูลค่า 72,670 ล้าน ใหญ่สุดในอาเซียน – มติชน
- WHAID ขายที่ดินให้ Beijing Haoyang สร้าง Data Center 300MW มูลค่า 7.2 หมื่นล้าน – Techsauce
- Data Center ระดับไฮเปอร์สเกลของจีน มูลค่า 72,670 ล้าน เลือกลงในนิคมฯ WHA – ประชาชาติธุรกิจ
- เลือกระบบคลาวด์อย่างไรให้เหมาะกับธุรกิจไทย: วิเคราะห์เปรียบเทียบ AWS Azure และ GCP (ฉบับปี 2025) – Asoke Cloud
- เมื่อการลงทุนกลายเป็น “การดูดเลือด”: ปรากฏการณ์โรงงานศูนย์เหรียญในไทย – Asoke Cloud