รีวิว AWS Summit Bangkok 2025: เหตุการณ์สำคัญที่เปลี่ยนโฉมหน้าคลาวด์ไทย

Public Cloud
Public Cloud

เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา วงการเทคโนโลยีไทยได้เป็นสาักษีต่อเหตุการณ์สำคัญที่อาจเปลี่ยนแปลงโฉมหน้าของอุตสาหกรรมคลาวด์ในประเทศไทยไปตลอดกาล นั่นคือการจัดงาน AWS Summit Bangkok 2025 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์

งานนี้จัดขึ้นในช่วงเวลาที่สำคัญยิ่ง หลังจากที่ AWS ได้เปิดตัว Thailand Region อย่างเป็นทางการเมื่อต้นปี 2025 ซึ่งถือเป็นก้าวสำคัญที่จะช่วยเร่งการใช้งานคลาวด์ของธุรกิจไทย การมี Region ในประเทศไทยไม่เพียงแต่ช่วยลดปัญหาเรื่อง latency เท่านั้น แต่ยังช่วยให้องค์กรไทยสามารถปฏิบัติตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (PDPA) ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

แม้ว่าจะผ่านมาแล้วกว่าหนึ่งเดือนตั้งแต่วันจัดงาน แต่เนื้อหาและข้อมูลที่ได้จากงานนี้ยังคงมีความสำคัญและเป็นประโยชน์อย่างมากต่อผู้บริหารและทีมไอทีที่กำลังวางแผนการใช้งานคลาวด์ บทความนี้จึงมีวัตถุประสงค์เพื่อสรุปสาระสำคัญจากงาน AWS Summit Bangkok 2025 รวมถึงแบ่งปันประสบการณ์และข้อมูลที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่ไม่ได้มีโอกาสเข้าร่วมงานในครั้งนี้

ข้อมูลพื้นฐานและวิธีการลงทะเบียน

AWS Summit Bangkok 2025 จัดขึ้นในวันอังคารที่ 29 เมษายน 2025 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ กรุงเทพมหานคร เป็นงานประชุมเทคโนโลยีขนาดใหญ่ที่ AWS จัดขึ้นเป็นประจำทุกปีในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก โดยในปีนี้ถือเป็นครั้งแรกที่จัดขึ้นหลังจากการเปิดตัว AWS Thailand Region อย่างเป็นทางการ

การเข้าร่วมงานนี้ไม่มีค่าใช้จ่าย แต่จำเป็นต้องลงทะเบียนล่วงหน้าผ่านเว็บไซต์ทางการของ AWS ที่ https://aws.amazon.com/events/summits/bangkok ในขั้นตอนการลงทะเบียน ผู้สมัครจะต้องกรอกข้อมูลส่วนตัว ชื่อบริษัท และที่อยู่อีเมล โดย AWS แนะนำให้ใช้อีเมลของบริษัทเพื่อความสะดวกในการตรวจสอบและรับข้อมูลข่าวสาร

หลังจากลงทะเบียนเสร็จสิ้น ผู้เข้าร่วมจะได้รับอีเมลยืนยันการลงทะเบียน และก่อนวันงานประมาณ 1-2 วัน AWS จะส่ง E-ticket มาให้ผ่านทางอีเมล สำหรับในวันงาน ผู้เข้าร่วมจะต้องนำ E-ticket และบัตรประจำตัวประชาชนมาแสดงที่จุดลงทะเบียนเพื่อรับบัตรเข้างาน หากมีแผนจะเข้าร่วม Workshop หรือ Hands-on Session แนะนำให้เตรียม Laptop ส่วนตัวมาด้วย แม้ว่าภายในงานจะมีพื้นที่สำหรับใช้งาน Laptop และจุดชาร์จแบตเตอรี่เตรียมไว้ให้บริการ

บรรยากาศงานและขนาดของงาน

ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์เป็นสถานที่จัดงานที่เหมาะสมอย่างยิ่งสำหรับงานระดับนานาชาติเช่นนี้ ด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกที่ทันสมัยและพื้นที่กว้างขวาง ในปีนี้ AWS ได้ใช้พื้นที่จัดงานทั้งชั้นอาคาร ทำให้สามารถรองรับผู้เข้าร่วมงานได้เป็นจำนวนมากโดยยังคงความสะดวกสบายในการเดินชมงาน

จุดลงทะเบียนได้รับการจัดระเบียบอย่างดี มีเจ้าหน้าที่ AWS ที่สวมเสื้อสีน้ำเงินพร้อมป้าย “Ask me!” คอยให้ความช่วยเหลือและชี้แนะทางตลอดเส้นทาง แม้ว่าจะมีผู้เข้าร่วมเป็นจำนวนมาก แต่กระบวนการลงทะเบียนดำเนินไปอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ ผู้เข้าร่วมจะได้รับบัตรประจำตัวพร้อมสายคล้องคอและการ์ดสะสมแสตมป์ ซึ่งสามารถนำไปแลกของที่ระลึกได้เมื่อเก็บแสตมป์จากบูธต่างๆ ครบตามจำนวนที่กำหนด

พื้นที่จัดแสดงภายในงานแบ่งออกเป็น 4 โซนหลัก ได้แก่ Accelerating industry success with AWS, Migrate modernise and build on AWS, Innovating with data and generative AI และ AWS for Developers แต่ละโซนมีเนื้อหาและกิจกรรมที่เฉพาะเจาะจง เหมาะสำหรับผู้ที่มีความสนใจในด้านต่างๆ ของเทคโนโลยีคลาวด์

สิ่งที่น่าประทับใจอีกประการหนึ่งคือการดูแลผู้เข้าร่วมงานอย่างดี ภายในงานมีจุดบริการเครื่องดื่มและอาหารว่างฟรีหลายจุด รวมถึงน้ำดื่ม กาแฟ และขนมต่างๆ ทำให้ผู้เข้าร่วมสามารถพักผ่อนและสร้างเครือข่ายธุรกิจได้อย่างสะดวกสบาย นอกจากนี้ยังมีพื้นที่นั่งพักและพื้นที่เครือข่ายที่เอื้อต่อการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นระหว่างผู้เข้าร่วม

การเปิดงานและการบรรยายหลัก

งาน AWS Summit Bangkok 2025 เริ่มต้นด้วยพิธีเปิดที่น่าประทับใจในเวลา 09:30 น. ณ หอประชุมใหญ่ ซึ่งมีจอภาพขนาดใหญ่แสดงวิดีโอเปิดงานที่สร้างความตื่นเต้น ตามด้วยการแสดงรำไทยแบบดั้งเดิมที่งดงามและสีสันสดใส ทำให้บรรยากาศภายในงานมีความเป็นไทยและสร้างความประทับใจให้กับผู้เข้าร่วมทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ

การบรรยายหลักในครั้งนี้มีผู้บรรยายที่มีชื่อเสียงทั้งหมด 4 ท่าน โดยเริ่มต้นด้วยคุณวัสสัน ธีรปัตราพงศ์ Country Manager ของ AWS ประเทศไทย ที่ได้กล่าวเปิดงานพร้อมกับประกาศอย่างเป็นทางการเกี่ยวกับความสำเร็จของ AWS Thailand Region ซึ่งสามารถรองรับองค์กรไทยกว่า 350 แห่งในระยะเวลาเพียง 112 วัน และเป็นการฉลองครบรอบ 10 ปีของ AWS ในประเทศไทย

คุณวัสสันได้นำเสนอแนวคิด “Thailand’s Digital Future” ผ่านเสาหลัก 3 ด้าน ได้แก่ Technology ที่เน้นระบบโครงสร้างพื้นฐานที่มั่นคงและปลอดภัย, Transformation ที่แสดงให้เห็นการใช้ Cloud และ AI ในการเปลี่ยนแปลงธุรกิจ เช่น ธนาคารกรุงศรีที่ใช้ AI ลดเวลาประเมินสินทรัพย์จาก 3 วันเหลือ 15 นาที และ 7-Eleven ที่ใช้ AI บริหารซัพพลายเชนลดปัญหาสินค้าขาดสต็อกได้ 40%, และ Talent ที่มุ่งเน้นการพัฒนาบุคลากรไทยสู่เศรษฐกิจดิจิทัล

ต่อมาคุณ Laura Grit VP และ Distinguished Engineer จาก AWS ได้บรรยายเกี่ยวกับการเดินทางของ AWS ในระดับโลกและการพัฒนาบริการใหม่ๆ โดยเฉพาะ Amazon SageMaker Unified Studio ที่เป็นแพลตฟอร์มครบครันสำหรับการพัฒนา AI และ Machine Learning รวมถึงการอัปเดตฟีเจอร์ใหม่ใน EC2 และ S3

คุณยศ ชินสุภกุล Founder และ CEO ของ LINE MAN Wongnai ได้แบ่งปันประสบการณ์การใช้ AWS ตั้งแต่ปี 2013 และอธิบายว่า AWS เป็นส่วนสำคัญในการสร้างความได้เปรียบทางการแข่งขันในด้าน Innovation, Cost และ Acceleration โดย LINE MAN Wongnai มีธุรกิจหลัก 3 ส่วน คือ Consumer On-Demand Services ที่มี Transaction มากกว่า 1 ล้านครั้งต่อวัน, Merchant Digital Solutions ที่ให้บริการร้านอาหารกว่า 700,000 ร้าน และ Digital Payment and Lending ที่มี Transaction มากกว่า 1 พันล้านครั้ง

สุดท้ายคุณสุนทร สมัยสุทธิ์ CTO ของ CP Group และ Managing Director ของ AXONS ได้กล่าวถึงการใช้เทคโนโลยี IT, Data และ AI ในการขับเคลื่อนธุรกิจขนาดใหญ่ โดยเน้นว่าเทคโนโลยีไม่ใช่ทัพหลังอีกต่อไป แต่เป็นทัพหน้าที่ควบคู่กับหน่วยงานธุรกิจ และได้แนะนำหลักการสำคัญ 6 ประการสำหรับการใช้ AI ให้ประสบความสำเร็จ ได้แก่ Data Readiness, Process, People, Technology & Infrastructure, Investment และ Governance

เซสชันเทคนิคและบูธแสดงเทคโนโลยี

หลังจากการบรรยายหลักเสร็จสิ้น ผู้เข้าร่วมสามารถเลือกเข้าร่วมเซสชันต่างๆ ตาม 4 แทร็กหลัก ได้แก่ Accelerating industry success with AWS ที่เน้นการประยุกต์ใช้ AWS ในอุตสาหกรรมต่างๆ, Migrate modernise and build on AWS ที่มุ่งเน้นการย้ายระบบและการสร้างสถาปัตยกรรมใหม่, Innovating with data and generative AI ที่เป็นหัวข้อยอดนิยมเกี่ยวกับการใช้ข้อมูลและ AI สร้างสรรค์ และ AWS for Developers ที่เจาะจงสำหรับนักพัฒนาซอฟต์แวร์

เซสชันที่ได้รับความสนใจมากที่สุดคือเรื่องเกี่ยวกับ Generative AI และการประยุกต์ใช้ข้อมูล โดยมีหัวข้อที่น่าสนใจหลายเรื่อง เช่น “Unify data and AI with the next generation of Amazon SageMaker”, “Using multiple agents for scalable generative AI applications” และ “Streamline RAG and model evaluation with Amazon Bedrock” ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความต้องการของตลาดไทยในการเรียนรู้และประยุกต์ใช้เทคโนโลยี AI ในธุรกิจ

นอกจากการบรรยายแล้ว ยังมี AWS GameDay ซึ่งเป็นเวิร์คช็อปแบบปฏิบัติการที่ผู้เข้าร่วมจะได้ทำงานเป็นทีมเพื่อแก้ไขปัญหาทางเทคนิคในสถานการณ์จำลอง กิจกรรมนี้ได้รับความนิยมอย่างมาก เนื่องจากช่วยให้ผู้เข้าร่วมได้ลงมือปฏิบัติจริงและเรียนรู้จากประสบการณ์ตรง ทีมต่างๆ จะต้องแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับ CloudWatch alerts, การตรวจสอบ log เพื่อหาสาเหตุของปัญหา และการปรับปรุงประสิทธิภาพของระบบ

พื้นที่จัดแสดงมีบูธจากบริษัทเทคโนโลยีและพาร์ทเนอร์ AWS หลายสิบแห่ง โดยแต่ละบูธมีการสาธิตเทคโนโลยีที่น่าสนใจ เช่น การใช้ Amazon Bedrock ในการสร้างแอปพลิเคชัน AI, การสาธิตการแก้ไขภาพถ่ายด้วย Generative AI และเครื่องมือต่างๆ ที่ผู้เข้าร่วมสามารถทดลองใช้ได้ด้วยตนเอง บูธที่โดดเด่นและได้รับความสนใจมาก ได้แก่ Snowflake ที่มีเกมแข่งขันความเร็วในการกดปุ่ม และ Cloudflare ที่มีการจำลองสถานการณ์ด้านความปลอดภัยแบบ Challenge

นอกจากนี้ยังมีการนำเสนอจากสตาร์ทอัพในประเทศไทยและบริษัทระดับโลกที่แบ่งปันกลยุทธ์การขยายธุรกิจในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ทำให้ผู้เข้าร่วมได้เรียนรู้ทั้งในมุมมองทางเทคนิคและมุมมองทางธุรกิจ การออกแบบบูธและกิจกรรมต่างๆ เน้นการมีส่วนร่วมและการสร้างประสบการณ์ที่น่าจดจำ ทำให้ผู้เข้าร่วมไม่เพียงแต่ได้รับข้อมูลเท่านั้น แต่ยังได้สร้างเครือข่ายและแลกเปลี่ยนประสบการณ์กับผู้เชี่ยวชาญในสาขาต่างๆ

การรับชมย้อนหลังผ่านระบบออนไลน์

สำหรับผู้ที่ไม่ได้มีโอกาสเข้าร่วมงาน AWS Summit Bangkok 2025 หรือต้องการทบทวนเนื้อหาที่น่าสนใจอีกครั้ง AWS ได้จัดเตรียมบริการ AWS Summit Bangkok 2025 On-demand ให้สามารถรับชมการบรรยายสำคัญต่างๆ ผ่านระบบออนไลน์ได้อย่างสะดวก

การบริการนี้เปิดให้รับชมได้ฟรีจนถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2025 โดยครอบคลุมเนื้อหาหลักจากงาน รวมถึงการบรรยายเปิดงาน (Opening Keynote) ที่มีผู้บรรยายทั้ง 4 ท่าน และเซสชันต่างๆ จากแทร็ก “Innovating with Data and Generative AI” ซึ่งเป็นหัวข้อที่ได้รับความสนใจสูงสุดจากผู้เข้าร่วม

ผู้ที่สนใจสามารถเข้าถึงเนื้อหาเหล่านี้ได้โดยการลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์ทางการของ AWS ที่ https://aws.amazon.com/events/summits/bangkok ซึ่งจะพบลิงก์สำหรับเข้าสู่ระบบ On-demand viewing ระบบนี้ช่วยให้ผู้ชมสามารถเลือกรับชมเฉพาะเซสชันที่สนใจได้ตามความต้องการ และสามารถหยุดพักหรือเล่นซ้ำได้ตามสะดวก

การให้บริการแบบ On-demand นี้สะท้อนให้เห็นถึงความใส่ใจของ AWS ที่ต้องการให้ความรู้และข้อมูลสำคัญเข้าถึงผู้ที่สนใจได้อย่างกว้างขวาง โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้บริหารและทีมไอทีที่อาจมีข้อจำกัดด้านเวลาในการเข้าร่วมงานจริง นอกจากนี้ยังเป็นโอกาสสำหรับผู้ที่เข้าร่วมงานแล้วในการทบทวนเนื้อหาที่สำคัญและนำไปประยุกต์ใช้ในองค์กรของตนเอง

อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับพาร์ทเนอร์ AWS ชั้นนำในประเทศไทย

สรุป

ผ่านมาแล้วกว่าหนึ่งเดือนตั้งแต่การจัดงาน AWS Summit Bangkok 2025 แต่เหตุการณ์สำคัญครั้งนี้ยังคงส่งผลกระทบต่อวงการเทคโนโลยีไทยอย่างต่อเนื่อง งานนี้ไม่เพียงแต่เป็นการแสดงให้เห็นถึงศักยภาพของ AWS Thailand Region เท่านั้น แต่ยังเป็นจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในการใช้งานคลาวด์ของธุรกิจไทย

ความสำเร็จของงานนี้สะท้อนให้เห็นถึงความพร้อมของตลาดไทยในการรับเทคโนโลยีใหม่ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้าน AI และ Generative AI ที่ได้รับความสนใจอย่างล้นหลาม การที่มีผู้เข้าร่วมเป็นจำนวนมากและมีการมีส่วนร่วมอย่างกระตือรือร้น แสดงให้เห็นว่าองค์กรไทยตระหนักถึงความสำคัญของการปรับตัวสู่ยุคดิจิทัล

การมี AWS Thailand Region ทำให้องค์กรไทยสามารถใช้บริการคลาวด์ได้อย่างมั่นใจมากขึ้น ทั้งในด้านของการปฏิบัติตามกฎหมาย PDPA และการลดปัญหาเรื่อง latency ซึ่งจะช่วยเร่งการนำเทคโนโลยีคลาวด์มาใช้ในธุรกิจไทยให้แพร่หลายมากขึ้น

สำหรับผู้บริหารและทีมไอทีที่กำลังพิจารณาการใช้งาน AWS หรือการขยายการใช้งานคลาวด์ ข้อมูลและประสบการณ์ที่ได้จากงานนี้จะเป็นแนวทางที่มีค่าในการวางแผนกลยุทธ์ การเรียนรู้จากความสำเร็จของธุรกิจชั้นนำอย่าง LINE MAN Wongnai และ CP Group จะช่วยให้เข้าใจถึงศักยภาพที่แท้จริงของเทคโนโลยีคลาวด์

เราหวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์สำหรับผู้ที่ไม่ได้มีโอกาสเข้าร่วมงาน และเป็นแรงบันดาลใจให้กับองค์กรไทยในการก้าวสู่อนาคตดิจิทัลที่เต็มไปด้วยโอกาสและนวัตกรรม

ลิงก์อ้างอิง