AWS ได้ประกาศเปิดให้บริการ AWS Backup ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก (ประเทศไทย) อย่างเป็นทางการแล้วในวันที่ 15 มกราคม 2025 ซึ่งถือเป็นก้าวสำคัญในการยกระดับบริการคลาวด์ในประเทศไทย การเปิดให้บริการนี้จะช่วยให้องค์กรต่างๆ ในประเทศไทยสามารถจัดการการสำรองข้อมูลได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยไม่จำเป็นต้องย้ายข้อมูลไปยังภูมิภาคอื่น
AWS Backup คืออะไร?
AWS Backup คือบริการสำรองข้อมูลที่จัดการได้แบบครบวงจร ซึ่งช่วยให้องค์กรสามารถจัดการและทำการสำรองข้อมูลของบริการ AWS ต่างๆ จากจุดควบคุมเดียว โดยมีคุณสมบัติที่สำคัญดังนี้:
คุณสมบัติหลัก:
- การจัดการแบบศูนย์กลาง: ควบคุมการสำรองข้อมูลทั้งหมดผ่านแดชบอร์ดเดียว
- การทำงานอัตโนมัติ: กำหนดตารางและนโยบายการสำรองข้อมูลได้อย่างอัตโนมัติ
- ความปลอดภัยสูง: รองรับการเข้ารหัสข้อมูลและการควบคุมการเข้าถึง
- การติดตามและรายงานผล: ตรวจสอบสถานะการสำรองข้อมูลได้แบบเรียลไทม์
บริการที่รองรับในภูมิภาคไทย:
- Amazon EFS (Elastic File System)
- Amazon EBS (Elastic Block Store)
- Amazon RDS (Relational Database Service)
- Amazon Aurora
- Amazon DynamoDB
- AWS Storage Gateway
- Amazon S3
- Amazon Redshift
ประโยชน์สำหรับธุรกิจ:
AWS Backup ช่วยให้องค์กรสามารถลดความซับซ้อนในการจัดการข้อมูลสำรองได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยการรวมศูนย์การควบคุมไว้ที่จุดเดียว ซึ่งช่วยประหยัดทั้งเวลาและทรัพยากรในการบริหารจัดการระบบ นอกจากนี้ ด้วยระบบการทำงานที่อัตโนมัติและความสามารถในการกู้คืนข้อมูลที่รวดเร็ว ทำให้องค์กรสามารถลดความเสี่ยงจากการสูญหายของข้อมูลและเพิ่มความมั่นใจในการดำเนินธุรกิจอย่างต่อเนื่อง
บริการ AWS Backup ในภูมิภาคไทยมีอะไรบ้าง
AWS Backup ในภูมิภาคไทยได้เปิดให้บริการพร้อมกับคุณสมบัติที่ครอบคลุมการใช้งานหลัก โดยมีรายละเอียดดังนี้:
บริการและราคา (ณ วันที่ 15 มกราคม 2025)
ราคาการใช้งานในภูมิภาคไทยแบ่งตามประเภทการจัดเก็บดังนี้:
Warm Storage (การจัดเก็บแบบพร้อมใช้งาน)
- EFS File System: $0.054/GB-เดือน
- EBS Volume Snapshot: $0.045/GB-เดือน
- RDS Database Snapshot: $0.086/GB-เดือน
- Aurora Cluster Snapshot: $0.021/GB-เดือน
- DynamoDB Table Backup: $0.1026/GB-เดือน
- Storage Gateway Volume Backup: $0.027/GB-เดือน
- S3 Backup: $0.054/GB-เดือน
Cold Storage (การจัดเก็บแบบประหยัด)
- EFS File System: $0.0108/GB-เดือน
- EBS Volume: $0.0113/GB-เดือน
- DynamoDB: $0.0308/GB-เดือน
คุณสมบัติที่สำคัญในภูมิภาคไทย
การให้บริการ AWS Backup ในภูมิภาคไทยได้รวมคุณสมบัติสำคัญที่ช่วยให้องค์กรสามารถจัดการการสำรองข้อมูลได้อย่างมีประสิทธิภาพ ผู้ใช้สามารถควบคุมการสำรองข้อมูลทั้งหมดผ่านคอนโซลเดียว พร้อมทั้งกำหนดนโยบายการสำรองข้อมูลแบบอัตโนมัติ นอกจากนี้ ยังรองรับการกู้คืนข้อมูลในกรณีที่ข้อมูลสูญหาย และมีระบบการเข้ารหัสข้อมูลเพื่อความปลอดภัยที่เหมาะสมกับมาตรฐานองค์กร
ข้อจำกัดที่ควรทราบ
ในการใช้งาน AWS Backup ในภูมิภาคไทย ณ วันที่ 15 มกราคม 2025 มีข้อจำกัดบางประการที่ผู้ใช้งานควรพิจารณา การจัดเก็บแบบ Cold Storage ยังไม่รองรับในทุกบริการ โดยในปัจจุบันมีเพียง EFS, EBS และ DynamoDB เท่านั้นที่สามารถใช้งานได้ นอกจากนี้ คุณสมบัติ Logical air-gap vault ซึ่งเป็นฟีเจอร์ด้านความปลอดภัยขั้นสูง ยังไม่พร้อมให้บริการในภูมิภาคไทย ผู้ใช้งานจึงควรวางแผนกลยุทธ์การสำรองข้อมูลโดยคำนึงถึงข้อจำกัดเหล่านี้
สรุป
ในบทความนี้ เราได้อธิบายถึงการเปิดให้บริการ AWS Backup ในภูมิภาคไทย ซึ่งเป็นก้าวสำคัญในการยกระดับการบริหารจัดการการสำรองข้อมูลสำหรับองค์กรในประเทศไทย
การให้บริการในภูมิภาคไทยนี้ช่วยให้องค์กรสามารถจัดเก็บข้อมูลสำรองไว้ภายในประเทศ ซึ่งช่วยลดความกังวลเรื่องการปฏิบัติตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (PDPA) และกฎระเบียบอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง
นอกจากนี้ ด้วยโครงสร้างราคาที่ยืดหยุ่นและความสามารถในการเลือกระดับการจัดเก็บข้อมูล ทำให้องค์กรสามารถบริหารต้นทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับธุรกิจที่มีความต้องการในการจัดเก็บข้อมูลที่แตกต่างกันในแต่ละช่วงเวลา
หวังว่าข้อมูลเกี่ยวกับ AWS Backup ในภูมิภาคไทยนี้จะเป็นประโยชน์สำหรับองค์กรที่กำลังพิจารณาการปรับปรุงระบบการสำรองข้อมูลของตนให้ทันสมัยและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
อ้างอิง
ข้อมูลในบทความนี้อ้างอิงจาก: